บทความ

รีวิวหนังสือ - สร้างเด็กภูมิดีด้วย EF

รูปภาพ
ชื่อหนังสือ สร้างเด็กภูมิดีด้วย EF ชื่อผู้เขียนหนังสือ นายแพทย์ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์ สำนักพิมพ์ แพรวเพื่อนเด็ก เนื้อหา 154 หน้า ราคา 195 บาท จากบทความรีวิวหนังสือก่อนหน้านี้  รีวิวหนังสือ : เลี้ยงลูกอย่างไรให้ได้ EF ซึ่ง "สร้างเด็กภูมิดีด้วย EF" เล่มนี้เปรียบเสมือนภาคต่อเพื่อขยายรายละเอียดของ EF โดยคุณหมอประเสริฐนั่นเอง   ความคิดเห็นหลังจากอ่านหนังสือเล่มนี้จบ ครูโจโจ้รู้สึกว่าเล่มนี้อ่านยากกว่าเล่มก่อนหน้านี้นิดหน่อยนะครับ เนื่องจากคุณหมอเพิ่มความเป็นวิชาการมากขึ้น จึงมีคำศัพท์ทางชีววิทยา อย่างเช่นสมองในส่วนต่าง ๆ มีชื่อว่าอะไร มีคุณสมบัติอะไร เป็นต้น ดังนั้นครูโจโจ้จึงขอหยิบยกบางประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการเลี้ยงดู การจัดการเรียนการสอน หรือ กิจกรรมเสริมประสบการณ์สำหรับเด็กเพื่อมาเล่าสู่กันฟังนะครับ  ในเล่มนี้คุณหมอแบ่งหมวดหมู่ออกเป็น 3 Parts ประกอบด้วย  Part 1 ใด ๆ ล้วน EF Part 2 ทำไมต้อง EF Part 3 การแก้ไข EF  ซึ่งในแต่ละ Part ก็จะเป็นเนื้อหาบทย่อย ๆ ไปอีก ทำให้ง่ายสำหรับผู้อ่านว่าต้องการกลับไปอ่านซ้ำในประเด็นไหน ในหมวดหมู่ไหน  ใน Part 1 ใด ๆ ล้วน E...

รีวิวหนังสือ - เลี้ยงลูกอย่างไรให้ได้ EF

รูปภาพ
ชื่อหนังสือ   เลี้ยงลูกอย่างไรให้ได้ EF ชื่อผู้เขียนหนังสือ นายแพทย์ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์ สำนักพิมพ์ แพรวเพื่อนเด็ก เนื้อหา 170 หน้า ราคา 165 บาท  ในปัจจุบันการศึกษาระดับปฐมวัยต่างพูดถึงเรื่องของ EF หรือ Executive Fuctions กันอย่างแพร่หลาย พ่อแม่ผู้ปกครองยุคใหม่ต่างให้ความสนใจในเรื่องการพัฒนา EF ของลูกน้อย  ใครที่ได้อ่านมาบ้างก็จะพอเข้าใจว่า EF คือการพัฒนาสมองส่วนหน้าเพื่อทักษะควบคุมอารมณ์ความคิด ซึ่งระยะเวลาที่พัฒนาได้ดีที่สุดคือช่วงวัยอนุบาล  จึงนับว่า EF เป็นเทรนด์ที่สำคัญสำหรับการเลี้ยงดูบุตรหลานและการจัดการศึกษาในระดับปฐมวัย ณ ช่วงเวลานี้ หนังสือ "เลี้ยงลูกอย่างไรให้ได้ EF" เล่มนี้ เขียนโดยนายแพทย์ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์ จึงเหมาะสำหรับผู้ปกครองและนักการศึกษาที่ควรหามาอ่านเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากคุณหมอได้สรุปเนื้อหาจากบทความทางวิชาการต่าง ๆ มาซอยย่อยเหมือกับเรื่องเล่าเพื่อให้เข้าถึงผู้ปกครองรวมถึงครูและนักการศึกษาด้วยภาษาที่ง่ายขึ้น รู้จักกับผู้ขียน นายแพทย์ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์ เป็นจิตแพทย์และนักเขียนชื่อดัง โดยเฉพาะพัฒนาการเด็กและวัยรุ่น คุณหมอจบการศึกษาจา...

รีวิวหนังสือ - รวยและรอดด้วยกราฟเทคนิค

รูปภาพ
ชื่อหนังสือ รวยและรอดด้วยกราฟเทคนิค ชื่อผู้เขียนหนังสือ ธัญญพัฒน์ ธัญญศิริ (อาจารย์เบรฟ)   สำนักพิมพ์  เอ็มไอเอส (MIS Publishing)  เนื้อหา 189 หน้า ราคา 195 บาท  (ครูโจโจ้ซื้อจากโปรโมชั่น SE-ED)  รู้จักกับผู้เขียน อาจารย์เบรฟ  ธัญญพัฒน์ ธัญญศิริ  เป็นลูกชายของ นายแพทย์วันชัย ธัญญศิริ กูรูเรื่องกราฟเทคนนิคแห่งวงการตลาดหุ้นไทย และ อดีตรองกรรมการผู้จัดการบริษัทหลักทรัพย์เมย์แบงก์กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ส่วนอาจารย์เบรฟเองก็มีประสบการณ์การทำงานที่เกี่ยวกับด้านการเงินมากมาย รวมถึงเป็นอาจารย์พิเศษคณะบริหารธุรกิจ ม.รามคำแหง อีกด้วย ด้านการศึกษา ระดับปริญญาโท 2 ใบ ประกอบด้วย สาขาวิชาเศรษฐศาสตร์ธุรกิจและการจัดการ คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ ด้านไฟแนนซ์และกฏหมายหลักทรัพย์จาก ICMA Centre, The University of Reading, England  เนื้อหาภายในเล่ม เนื้อหาประกอบด้วย 8 บท (จริง ๆ 7 บท แต่รวมกับบททิ้งท้ายอีกหนึ่งบท) ประกอบด้วย 1. สิ่งมีชีวิตที่เรียกว่ากราฟหุ้น เป็นการ Introduction เข้าสู่เนื้อหา และ ปรับแนวคิดที่หลายคนคิดว่าการดูกราฟหุ้นใ...

การแคปหน้าจอ (screenshot) คอมฯ Windows 10 อย่างไร

รูปภาพ
ปัจจุบันเราต่างเชี่ยวชาญการ "แคปหน้าจอ" ผ่านโทรศัพท์มือถือกันเป็นส่วนใหญ่ (แคป มาจากคำว่า capture) แต่กลับหาวิธีการแคปหน้าจอคอมพิวเตอร์แล้ว save เก็บไว้บนเครื่องไม่ได้ (ระบบก็ไม่ทำให้ง่ายเองนี่นา) มาครับ เดี๋ยวครูโจโจ้จะบอกวิธีให้ฟัง ขอพูดถึงเฉพาะระบบปฏิบัติการ Windows 10 นะครับ  การแคปหน้าจอ (ภาษาอังกฤษใช้คำว่า take a screenshot) ระบบ Windows 10 มีหลายรูปแบบและใช้งานที่แตกต่างกันดังนี้ กด  PrtSc ซึ่งเป็นปุ่มที่อยู่ด้านบนสุดทางด้านขวา บางครั้งรุ่นอาจจะเขียนเป็น PrtSc SysRq หรือ PrtScn หรือที่เขียนคล้ายกัน โดยปุ่มนี้ถ้ากดแล้วจะแคปทั้งหน้าจอ (entire screen) แลก็อปปี้เก็บไว้ในคลิปบอร์ดอัตโนมัติ (แต่ไม่ได้เซฟไว้ในเครื่อง) การวางรูปภาพที่แคปมาใช้ด้วยการกด Ctrl + V ลงในโปรแกรมต่างๆ เช่น Microsoft Word, PowerPoint, Docs, Slides หรือ comment บท Facebook เป็นต้น เนื่องจากการใช้ Prtsc แคปเพื่อก๊อปปี้ได้ครั้งละรูปเท่านั้น หมายความว่าถ้าเรากด PrtSc แล้วต้องใช้เลย ถ้ากดใหม่ก็จะแคปหน้าจอใหม่เก็บไว้แทนอันก่อนหน้านี้ ย้ำว่าไม่สามารถเซฟไว้ในเครื่องได้ กด  Alt + PrtSc ทั้ง 2 ปุ่มพร้อมกัน...

Update! Google Meet 2021 บางสิ่งที่เพิ่มเข้ามา และบางสิ่งที่หายไป

รูปภาพ
จากคลิป "แนะนำการใช้งาน Google Classroom ในภาพรวม" https://youtu.be/MHDhp-F8fvM ที่ครูโจโจ้ได้นำเสนอไปก่อนหน้านี้  กาลเวลาผ่านไป Google ได้ปรับปรุงและปรับเปลี่ยน Meet  เฉพาะ G Suite for Education (เวอร์ชั่นฟรี)  ไปหลายอย่าง มี features ใหม่ๆ ที่เพิ่มเข้ามา และ บาง features ที่หายไป สำหรับ G Suite for Education อะไรบ้าง เรามาดูกันเลยครับ   สิ่งที่เพิ่มเข้ามา Change background การเปลี่ยนพื้นหลัง ซึ่งถ้าใครเคยใช้ ZOOM ก็จะเข้าใจดี เป็นลูกเล่นที่เป็นจุดเด่นเลยทีเดียว ตอนนี้ Meet ก็มีแล้ว เพียงแต่ว่าสามารถเลือกตามที่ระบบมีให้เท่านั้น ไม่สามารถเพิ่มภาพส่วนตัวลงไป ถ้าไม่ชอบรูปภาพก็มีโหมดให้เลือกเบลอพื้นหลังของเรา จะเบลอมาก เบลอน้อย ก็แล้วแต่ใจชอบ  Raise hand การยกมือถาม ซึ่งเป็นปุ่มที่เพิ่มเข้ามา ในกรณีที่ครูสอนอยู่ เกิดความสงสัย หรือ ครูอาจจะพูดเร็วเกินไป ก็กดปุ่มยกมือขึ้นมา สำหรับหน้าจอผู้สอนก็จะมี pop-up ปรากฏขึ้นมา แจ้งว่านักเรียนคนนี้ยกมือขึ้น  เป็นการสร้างบรรยากาศที่คล้ายกับห้องเรียนจริงๆ  Cast this meeting คือการแคสหน้าจอไปยังสมาร์ททีวิหรือโปรเจค...

Diary Dairy Daily ต่างคำต่างความหมายและออกเสียงต่างกัน

รูปภาพ
จากบทความเรื่อง Mood Tracker ทำเองง่ายๆ สำหรับปี 2021 มีคำหนึ่งที่ครูโจโจ้พูดถึงคือ ไดอารี่ ทีนี้ทำให้ครูโจโจ้นึกขึ้นได้ว่า คำนี้หลายคนสับสนว่าภาษาอังกฤษเขียนยังไงกันแน่ระหว่าง Diary, Dairy หรือ Daily กันแน่ บอกก่อนเลยว่าทั้ง 3 คำนี้ ความหมายต่างกัน และ ออกเสียงก็ต่างกัน ด้วย มีอะไรบ้าง ไปดูทีละคำกันเลยครับ Diary (n.)  ประกอบด้วย 3 พยางค์  di-a-ry   ออกเสียเป็น ได - เออะ - รี  คำนี้เราใช้เลียนเสียงทับศัพท์ก็คือ ไดอารี่ นั่นเอง โดยคำว่า diary นั้นมีที่มาจากภาษาละติน คือ diarium = journal หรือบันทึกเหตุการณ์ประจำวัน ซึ่ง di(es) = day นั่นเองครับ  Dairy (adj.) (n.) ประกอบด้วย 2 พยางค์ dair-y ออกเสียงเป็น แดร์ - รี่ คำนี้ให้นึกถึงไอศครีมที่ขายตามห้างสรรพสินค้านะครับ คือ Dairy Queen ออกเสียว่า แด-รี่-ควีน ซึ่งคำว่า dairy ถ้าเป็นคำคุณศัพท์ (adj.) = เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์จากนม ถ้าเป็นคำนาม (n.) = โรงรีดนม ครับ ที่ให้นึกถึง Dairy Queen เพราะไอศครีมนั้นทำมาจากนมครับ  Daily (adv) (adj)  ประกอบด้วย 2 พยางค์ dai-ly ออกเสียงเป็น เด - ลี่ คำนี้ให้นึกถึงหนังสือพิมพ์...

แน่ใจแล้วหรือว่าการด่าผู้ที่ติดเชื้อจะเกิดผลดี?

รูปภาพ
Photo by cottonbro from Pexels ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา จำนวนผู้ที่ติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 หรือ COVID 19 ก็ปรากฏจำนวนเพิ่มขึ้นทุกวัน สำหรับพื้นที่สีแดงนั้นขึ้นถึงหลักร้อยต่อวันเลยทีเดียว แต่จังหวัดที่ยังไม่เป็นพื้นที่สีแดงนั้นพบประมาณไม่กี่คน พอปรากฏหนึ่งคนก็เป็นเรื่องใหญ่ในวงกว้าง สร้างความหวาดผวาและความวิตกกังวลเป็นอย่างมาก จนทำให้เราหลายคนขาดสติ เมื่อทางกระทรวงสาธารณสุขรายงาน timeline ของผู้ที่ติดเชื้อ เราก็จะเห็นคอมเมนต์ของประชาชนที่ด่าทอด้วยถ้อยคำที่ดุเดือด เช่น เห็นแก่ตัวบ้างล่ะ ง่าว(โง่)บ้างล่ะ  โอเค สำหรับเคสแรกๆ ที่มีคนลักลอบหนีออกมาจากชายแดนแล้วไม่กักตัว อันนี้สมควรโดนด่า กับอีกกรณีที่มีอาการป่วยแล้วแอบรักษาด้วยตัวเองทั้งที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยง แล้วยังไปไหนต่อไหนอีก ไม่ยอมหาหมอ จนอาการมันหนักขึ้นจึงยอมรับสารภาพ แต่ก็โกหกพัลวัน ปกปิด timeline ตัวเอง อันนี้ก็เห็นชอบว่าสมควรโดนด่า แต่ในกรณีหลังๆ คือ เขาใช้ชีวิตตามปรกติเพราะไม่ได้อยู่พื้นที่สีแดง ก็ใช้ชีวิตแบบเราๆ ไปนั่นโน่นนี่ อาการก็ยังไม่ปรากฏ เมื่อเขาเป็นไ้ข้ไม่สบาย เขาเกิดความสงสัยในตัวเอง เขาก็ไปหาหมอทันที พอผลออกมาเป...