เหตุการณ์ประหลาด การพบเห็น UFO ที่ Berkshires 1969
อากาศร้อนในช่วงค่ำของวันที่ 1 กันยายน ปี ค.ศ. 1969 (พ.ศ. 2512) ในเขตพื้นที่ Berkshire รัฐ Massachusetts ประเทศสหรัฐอเมริกา เกิดเรื่องราวอันน่าประหลาดขึ้นในเขตพื้นที่อย่างเป็นวงกว้าง มีพยานหลายคนจากหลาย ๆ เมืองใน Berkshire ที่พบเห็นแสงสว่างจ้าแบบที่ไม่เคยพบเห็นมาก่อน บางคนได้ใกล้ชิดกับลำแสงประหลาดนั้นกับประสบการณ์ที่คนในโลกนี้ไม่เคยได้สัมผัส พวกเขาเชื่อกันว่าเรื่องนี้ต้องเกี่ยวข้องกับ UFO และสิ่งมีชีวิตต่างดาวที่มีเทคโนโลยีล้ำสมัยกว่าโลกที่เราอยู่นี้แน่นอน
Image by Comfreak from Pixabay |
Jane Green เล่าว่าในวันนั้นเธอกำลังขับรถออกมาจากเมือง Stockbridge เพื่อกลับมาที่ Great Barrington กับเพื่อนของเธอ ระหว่างทางพวกเธอที่อยู่ในรถพบเห็นแสงสว่างประหลาด เป็นแสงสว่างที่จ้ามาก จนเธอไม่สามารถขับรถไปต่อได้ จึงจอดรถเพื่อลงมาดู เธอยังเห็นมีรถคันอื่น ๆ ทำเช่นเดียวกันกับเธอ เนื่องจากเข้าใจว่าอาจจะมีอุบัติเหตุข้างหน้า เธอเองยังเข้าใจว่าเป็นไฟจากรถตำรวจหลายคันที่ส่องมา แต่เธอกลับมองเห็นวัตถุที่มีขนาดมหึมาลอยอยู่ ไม่มีเสียง และสามารถเคลื่อนไหวรวดเร็วภายในเสี้ยววินาที
เธอเลือกที่จะเก็บเรื่องนี้ไว้ เพราะมันเป็นเรื่องประหลาดเกินที่ใครจะเข้าใจ และอาจจะสร้างความหวาดกลัวให้กับลูก ๆ ของเธอได้ จนเมื่อเวลาผ่านไปหลายสิบปี ลูก ๆ ของ Jane Green ก็เล่าให้เธอฟังว่าเคยพบเห็นเหตุการณ์ประหลาดที่ไม่เคยเล่าให้เธอฟังเช่นกัน ซึ่งในขณะนั้นพวกเขาอายุ 10 และ 12 ขวบ และเล่นอยู่นอกบ้าน เธอจึงประหลาดใจมากเพราะเธอไม่เคยเล่าให้ลูก ๆ ฟังมาก่อนเลย
Tom Warner จำได้แม่นว่าวันนั้นเป็นวันแรงงาน อากาศร้อนมาก เขากำลังระบายสีงานศิลปะที่บ้านของครอบครัว Shaw ซึ่งเป็นเพื่อนบ้านที่เขามักไปเล่นด้วยกันเสมอ วันนั้นอยู่ ๆ มีเสียงบางอย่างสื่อสารกับเขาบอกให้กลับบ้าน ราวกับการสื่อสารผ่านโทรจิต ทันใดนั้นเขาจึงวางงานศิลปะลงแล้วรีบวิ่งออกจากบ้านของครับครัว Shaw โดยมี Jane Shaw ซึ่งเป็นพยานผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า ตอนนั้นทุกคนตกใจมากกับการที่อยู่ ๆ เขาวิ่งออกไป
Tom Warner เล่าต่ออีกว่า เมื่อเขาวิ่งออกไปนอกประตู เขารู้สึกถึงพลังงานบางอย่าง เขารู้สึกเหมือนกำลังลอยอยู่ ซึ่ง Jane Shaw ผู้เป็นพยาน วิ่งตามออกมาดูเขา ก็เห็นว่าเขาวิ่งอยู่กับที่ตรงนอกบ้านเกือบ 5 นาที แล้วมีลำแสงสว่างส่องมาที่เขา พอเธอรู้ตัวอีกที Tom ก็หายไปแล้ว
Tom เล่าว่าเขาพยายามวิ่งกลับบ้านแต่มันกลับไม่เคลื่อนไปไหนราวกับเท้าเขาลอยเหนือพื้น จากนั้นเขาก็รู้สึกถึงร่ายกายที่เย็นยะเยือก เมื่อเขาหันขึ้นมามอง เขาจึงเห็นเป็น UFO ที่ส่องแสงลงมาที่เขา ทันใดนั้นก็รู้สึกเหมือนถูกอากาศดูดไปอย่างรวดเร็วเพียงพริบตา เมื่อเขามีสติอีกครั้งก็กลับมานอนอยู่ใกล้ ๆ จุดที่เขาถูกลำแสงดูดขึ้นไป โดย Jane Shaw บอกว่าระยะเวลาที่เขาหายไปแล้วกลับลงมา ใช้เวลาประมาณ 7 นาที
เมื่อเขารู้ตัวตอนที่กล้บมาอีกครั้ง เขานอนหงายหน้าราบอยู่บนพื้น มองเห็นลำแสงอยู่ทอดอยู่บนลำตัว ซึ่งตรึงเขาอยู่กับพื้นและไม่สามารถลุกขึ้นจากจุดตรงนั้นได้ แม้พี่ชายจะตะโกนบอกให้เขาวิ่งก็ตาม ขณะนั้นมีเสียงโทรจิตบอกกับ Tom ประมาณว่า "เดี๋ยวก็จะเสร็จแล้ว" ซักครู่เดียวลำแสงก็หายไป เขาจึงลุกขึ้นมาได้ และทันทีที่ลุกขึ้นมาได้จึงหัยมองกลับไปดู ปรากฏว่า UFO ก็หายไปแล้ว มากไปกว่านั้น เขามีความทรงจำเล็กน้อยเมื่อตอนที่เขาถูกลำแสงดูดขึ้นไป เขาเชื่อว่าเขาขึ้นไปอยู่ใน UFO และบนนั้น เขาได้มองเห็นคนที่เขารู้จักอยู่ด้วย ชื่อ MelanieMelanie Kirchdorfer เธอเล่าว่าตอนนั้นไปที่ทะเลสาปแมนส์ฟิลด์ (Lake Mansfield) กับครอบครัว ขณะที่พ่อของเธอกำลังนำรถเข้าจอดที่ลานจอดรถ ทันใดนั้นก็เห็นแสงสว่างจ้ารอบ ๆ รถ ทุกคนที่อยู่ในรถเกิดความหวาดกลัว ในขณะที่พ่อของเธอกำลังตัดสินใจที่จะแล่นรถวิ่งไปตามแสงสว่างนั้น พี่สาวของเธอไม่สามารถจำเหตุการณ์อะไรหลังจากนั้นได้เลย แต่ Melanie เธอจำได้ว่าตัวเธอลอยขึ้นไป และไปอยู่บนยานและนอนแผ่ราบอยู่บนนั้น เธอเล่าว่าเธอเห็นเด็ก ๆ วัยใกล้เคียงกับเธออยู่ที่นั่นหลายคน จากนั้นก็ค่อย ๆ หายไปทีละคน และเธอก็ตื่นขึ้นมาอยู่ที่ริมทะเลสาปเพียงลำพัง
เธอจำไม่ได้ว่าเห็น Tom Warner และตัวเธอเองก็ไม่ได้รู้จักเขาด้วยซ้ำ เนื่องจากอายุต่างกันและเพื่อนก็คนละกลุ่ม แต่หลังจากเหตุการณ์ประหลาดนี้เกิดขึ้น เธอได้เจอกับ Tom เป็นครั้งแรก และเธอก็รู้สึกผูกพันโดยทันที ซึ่งเป็นความรู้สึกที่ประหลาด จนตอนนี้ทั้ง Tom Warner และ Melanie Kirchdorfer มีความผูกพันราวกับพี่น้องจริง ๆ เลยทีเดียว
Thom Reed ขณะที่นั่งรถกับครอบครัวเพื่อกลับบ้านบนสะพานเชฟฟิลด์ ทุกคนในรถได้พบเห็นแสงไฟลอยขึ้นจากริมน้ำ ลักษณะเป็นลูกไฟกลมสีขาว อยู่สูงประมาณตึกสองชั้น และยิงลำแสงสีส้มลงมาที่รถ ภายในนั้นประกอบด้วย แม่ ยาย และน้องชายของ Thom
แม่ของ Thom ซึ่งเป็นคนขับรถ ตัดสินใจจอดเพื่อที่จะดูสถารการณ์ และ UFO ก็ปรากฏขึ้น แม่ของ Thom เล่าว่าลักษะของมันเหมือนกับกระดองเต่าลอยอยู่ตรงนั้น แต่ตรงกลางจะมีสีสันหลากหลายแตกต่างกันไป ส่วน Thom เล่าว่าขนาดของมันใหญ่มหึมาราวอยู่บนท้องฟ้า
บรรยากาศโดยรอบตอนนั้นเงียบสงัด ทั้ง ๆ ที่มันไม่ควรจะเงียบแบบนั้น แต่ทันใดก็มีแสงสว่างส่องมาที่รถอีกครั้ง แสงที่สว่างจ้าราวกับแสงตอนกลางวัน จนเขาสามารถมองเห็นทุกอย่างภายในรถได้อย่างชัดเจน แล้วอยู่ ๆ เสียงร้องของแมลงดังมาก รวมถึงกบด้วยก็เช่นกัน ซึ่งนั่นคือเสียงที่ Thom และแม่ของเขาจำได้เป็นสิ่งสุดท้ายก่อนที่จะรู้ตัวอีกที ทั้งหมดจำช่วงเวลาที่หายไปไม่ได้เลย โดย Thom บอกว่าเท่าที่เขาจำได้ประมาณ 15 นาที แต่เหตุการณ์ทั้งหมดนั้นเกิดขึ้นเกือบ 3 ชั่วโมง
แต่พอทุกคนได้สติ สิ่งที่เกิดขึ้นต่อมาคือรถจอดอยู่ที่ไกลออกไป จากจุดเดิม แล้วคนที่อยู่ในรถนั่งสลับตำแหน่งกัน โดยเฉพาะคุณยายซึ่งอายุมากแต่นั่งอยู่ที่ฝั่งคนขับ แทนคุณแม่ที่ขับรถมาโดยตลอดเส้นทาง
Tom Jay เป็นนักจัดรายการและผู้อำนวยการของสถานีวิทยุท้องถิ่น WSBS ตัวเขาเองไม่ได้มีประสบการณ์พบเจอ UFO แต่กลับพบว่ามีคนติดต่อเขาผ่านทางรายการวิทยุด้วยเรื่องคล้าย ๆ กันเป็นจำนวนมากมาย จากหลายที่หลายเมืองที่แตกต่างกันออกไป สิ่งหนึ่งที่เหมือนกันก็คือ ทุกคนพบแสงประหลาด
แต่สิ่งที่ขัดแย้งของเรื่องนี้ก็คือ บันทึกปี 1969 ของสถานีตำรวจ กลับไม่พบรายงานใด ๆ และมีรายงานเหตุสำหรับวันนั้นเพียงหน้าเดียว
อย่างไรก็ดี ลูกของเจ้าหน้าที่ตำรวจท่านหนึ่งจำสถานการณ์หลังจากวันที่เกิดเรื่องได้ว่ามีคนมารายงานกับพ่อของเขาเป็นจำนวนมากมาย แต่ตำรวจคิดว่าเป็นเรื่องที่ไร้สาระ และไม่บันทึกรายงานดังกล่าว
นี่คือพยานส่วนหนึ่งของเหตุการณ์ในวันที่ 1 กันยายน ปี 1969 ที่ Berkshires ในยุคนั้นแทบทุกคนคงมองว่า UFO เป็นเรื่องไร้สาระ พยานหลาย ๆ คนโดนสังคมดูถูกเหยียดหยาม พวกเขาถูกมองว่าเป็นพวกประหลาด พูดในสิ่งเพ้อเจ้อ และบางคนก็ถูกกลั่นแกล้งที่โรงเรียนสมัยที่ยังเป็นเด็กอีกด้วย จนปัจจุบันนี้ การพูดถึง UFO เป็นเรื่องที่เป็นทางการมากขึ้น ข่าวจากการที่กองทัพเรือสหรัฐอเมริกาสามารถจับภาพ UFO ได้ ประกอบกับคนในยุคนี้ก็เชื่อว่าจักรวาลอันกว้างใหญ่ไพศาล จะต้องมีสิ่งมีชีวิตนอกโลกอย่างแน่นอน เพียงแต่ว่าพวกเขาอยู่ที่ไหนเท่านั้น
ใครที่ชอบเรื่องนี้ ทุกท่านสามารถดูเพิ่มเติมได้ที่สารคดีเรื่อง Unsolved Mysteries Volume 1 เรื่อง Berkshires UFO ผ่านทาง Netflix ได้ครับ
ครูโจโจ้
https://www.facebook.com/krujojotalk
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น