รายการสารดคีท่องเที่ยวที่มาพร้อมกับความเสี่ยงอยู่เสมอ
เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา อยู่ ๆ ครูโจโจ้ก็คิดถึงรายการสารคดีคนไทยที่ชื่นชอบมากตอนเด็ก ๆ จำเพลงเข้าสู่รายการได้ จำน้ำเสียงและสไตล์ของผู้ดำเนินรายการได้ และจำชื่อบริษัทได้ คือ Panorama แต่จำชื่อรายการไม่ได้ซะงั้น
ครูโจโจ้จึงค้นหาข้อมูลใน Google จึงทราบชื่อรายการคือ "ผจญภัยไร้พรมแดน" ซึ่งในยุคนั้นดำเนินรายการโดยคุณ วีระ นุตยกุล ที่ครูโจโจ้ชื่นชอบมาก ด้วยท่าทางและน้ำเสียงที่เป็นมิตร แต่การไปเปิดโลกของคุณวีระนั้นเข้าถึงและลึกซึ้งกับชุมชน ทำให้เราได้ความรู้แบบลึก ๆ จนไปถึงแหล่งที่มีความเสี่ยง ซึ่งเป็นการนำเสอนมุมที่แปลกและแตกต่างสำหรับรายการสารคดีไทยในยุคนั้นเลยทีเดียว
แต่สำหรับคนรุ่นราวคราวเดียวกันกับเด็กชายโจโจ้ในยุคนั้นจะไม่ค่อยรู้จักกัน เพราะสมัยนั้นมีรายการท่องเที่ยวที่ดำเนินการโดยวัยรุ่นอยู่หลายรายการพอสมควร แต่ครูโจโจ้ไม่ค่อยชอบวิธีการนำเสนอที่ exaggerate (โอเวอร์) ของผู้ดำเนินรายการ บางครั้งก็ตะโกนโวยวาย ดูแล้วรู้สึกอึดอัด ส่วนรายการ "ส่องโลก" นั้นก็ใช้น้ำเสียงที่รู้สึกลี้ลับจนต้องลุ้นอยู่ตลอดเวลา 5555 (แต่ชอบมากตอนที่รายการนำเสนอเรื่องมนุษย์ต่างดาว)
ที่ครูโจโจ้ชอบการดำเนินรายการของคุณวีระ นอกจากการเข้าถึงข้อมูลยังแหล่งชุมชนแล้ว แกมีความกล้าแบบที่คนไทยในยุคนั้นไม่ค่อยกล้าแสดงออก แต่เป็นความกล้าที่เป็นมิตร นุ่มนวล และ ให้เกียรติ เช่น การขอดวลการเล่นดนตรีกับคนในท้องถิ่น ซึ่งคุณวีระชอบเป่าเมาท์ออร์แกนแทบจะทุกโอกาส น้ำเสียงของคุณวีระที่ฟังแล้วรู้สึกอบอุ่น การดำเนินตลอดทั้งรายการของคุณวีระจึงเต็มไปด้วยรอยยิ้มของคุณวีระเอง แม้จะเผชิญหน้ากับสิ่งที่อันตรายก็ตาม ซึ่งนั่นก็เป็นอีกอย่างหนึ่งที่ครูโจโจ้ชื่นชอบรายการผจญภัยไร้พรมแดน คือคุณวีระไปถ่ายทำในสถานที่ที่เสี่ยง ที่ที่คนไทยคนอื่นไม่กล้าไป สมกับคำว่าผจญภัยที่แท้จริง
คุณวีระเคยให้สัมภาษณ์ในรายการตีสิบ เกี่ยวกับประสบการณ์การไปสำรวจเผ่ามนุษย์กินคน (เสี่ยงสุดๆ) และก็โดนมนต์ดำของชนเผ่าทำให้ไม่สบายอย่างหนัก ซึ่งเผ่ามนุษย์กินคนมีแผนที่จะจับคุณวีระกินนั่นเอง แต่โชคดีที่คุณวีระมีคนในท้องถิ่นซึ่งช่วยเป็นไกด์ ได้ต่อรองและขอร้องไว้ คุณวีระจึงรอด ... คิดดูว่าแค่ชื่อเผ่ามนุษย์กินคนใครจะกล้าไป แต่คุณวีระกล้า
คุณวีระจึงเป็นหนึ่งในต้นแบบเวลาที่ครูโจโจ้ไปเที่ยวต่างประเทศ ชอบไปสำรวจตามที่ต่าง ๆ คิดเสมอว่าการมาเที่ยวทั้งทีต้องได้ความรู้อะไรกลับไป จึงไม่ชอบการท่องเที่ยวแบบคณะทัวร์ ที่มีเวลาจำกัดและไม่สามารถมีประสบการณ์แบบเจาะลึกได้
มากไปกว่านั้น ในยุคของคุณวีระ ก็มีรายการสารคดี "เปิดโลกส่องเลนส์" ดำเนินรายการโดย นิติภูมิ นวรัตน์ (ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็น นิติภูมิธณัฐ มิ่งรุจิราลัย) และรายการ "เปิดเมืองแปลก" ดำเนินรายการโดย ณวัฒน์ อิสรไกรศีล ที่ครูโจโจ้ดูบ้างประปรายในอดีต เพราะติดในเรื่องของเวลาที่รายการออกโทรทัศน์กับเวลาส่วนตัวไม่ตรงกัน
ในยุคหลัง ๆ มาครูโจโจ้ชอบดูรายการสารคดี "หนังพาไป" ทาง Thai PBS ดำเนินรายการโดยพิธีกรสองคน คุณบอล กับ คุณยอด แต่เราแทบจะไม่เห็นหน้าของพิธีกรเลย ซึ่งครูโจโจ้ก็ชอบแนวทางในการนำเสนอในรูปแบบนี้ จึงนำแนวทางมาใช้ในการถ่ายคลิปท่องเที่ยวของตนเอง (ดูได้จาก Playlists นี้ https://youtube.com/playlist?list=PLzKfsbPD-9zipigX7xs4js8gPz530IB2B) รวมถึงรายการ "ไกลบ้าน" ของคุณฟาโรส ทาง YouTube ซึ่งเป็นสารคดีที่เน้นความรู้ทางการศึกษามาก ๆ
ซึ่งทุกรายการที่กล่าวถึงนั้นต่างพบความเสี่ยงที่แตกต่างกัน เสี่ยงน้อยอย่าง โดนคุกคาม เสี่ยงมากอย่างโดนขโมยของ โดนหลอก ทำร้ายร่างกาย จนไปถึงเสียชีวิต แบบกรณีสารคดีสัตว์โลกของชาวต่างชาติ เพราะการกล้าเสี่ยงเพื่อได้ประสบการณ์ที่แปลกใหม่นั้นทำให้รายการสารคดีนั้นมีคุณค่ามากขึ้น
ทีนี้ขอพูดถึงกรณีน้องมิ้น I Roam Alone ซึ่งกำลังเป็นเป็นกระแสเกี่ยวกับการที่เธอตัดสินใจไป ณ ประเทศอัฟกานิสถาน ในช่วงที่อันตรายมาก ๆ เนื่องจากอยู่ในภาวะสงครามกลางเมือง โดยปกติแล้วครูโจโจ้ไม่ได้ติดตามเพจนี้แต่อย่างใด เห็นผ่าน ๆ เพราะมีคนแชร์ขึ้นนาฟีดอยู่ช่วงหนึ่ง เลยเข้าไปดูแป๊ป ๆ ความคิดเห็นส่วนตัวแล้วไม่ค่อยชอบสไตล์การนำเสนอจึงไม่ติดตาม แต่ในกรณีที่น้องตัดสินใจไปสัมผัสวิถีชีวิตในอัฟกานิสถาน ก็ต้องนับถือความกล้าเสี่ยงของเธอจริง ๆ ทั้งนี้ทั้งนั้นที่เกิดกรณีดราม่า ก็คงเป็นการโพสที่อาจจะสร้างความเสียหายและอันตรายต่อทั้งตนเองและผู้คนรอบข้างบริเวณนั้น เพราะการเข้าไปในประเทศที่มีสงครามอาจจะต้องมีธรรมเนียมบางอย่าง ซึ่งครูโจโจ้ได้อ่านจากคุณ กรุณา คำบัวศรี ผู้สื่อข่าวที่มีประสบการณ์สูงในการทำข่าวในต่างประเทศ และได้แนะนำข้อปฏิบัติจากประสบการณ์ของเธอ (อ่านเพิ่มเติมที่ https://www.sanook.com/news/8418914/)
แต่เมื่อ I Roam Alone ได้ตัดสินใจไปแล้ว และเธอไปถึงที่นั่นได้แล้ว การที่บอกว่าเธอไปถ่ายทำเพราะหิวแสงมันก็คงไม่แฟร์นัก แต่การโพสเล่าเรื่องสถานการณ์แบบยียวนกวนใจในสถานการณ์แบบนั้นก็ไม่ควร (ล่าสุดลบโพสแล้ว) ซึ่งครูโจโจ้คิดว่าคงเป็น charactor ของเธอตามปกติ เพียงแต่อาจจะทำการบ้านไม่ดีพอถ้าหากคนเราจะต้องไปอยู่ท่ามกลางสงครามแบบนั้น มันไม่ใช่สถานที่ท่องเที่ยวและไม่น่าอภิรมย์ซักเท่าใดนัก ท่ามกลางผู้คนล้มตายและอกสั่นขวัญผวาเป็นจำนวนมากมายจากความโหดร้ายป่าเถื่อน
นี่ก็คงจะเป็นประสบการณ์ครั้งสำคัญในชีวิตของเธอ และบทเรียนด้วยเช่นกัน และขอให้เธอกลับบ้านได้อย่างปลอดภัยให้เร็วที่สุด
ครูโจโจ้
www.facebook.com/engkrujojo
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น