ต่อเนื่องด้วยเรื่อง Present Continuous


What is he doing?


เหมือนเดิมครับ สิ่งที่เราจะต้องรู้ในแต่ละ Tense ประกอบด้วยหัวข้อดังต่อไปนี้
  1. โครงสร้าง
  2. การใช้
  3. คำบอกเวลา
โครงสร้างของ Present Continuous (หรืออีกชื่อหนึ่งคือ Present Progressive)

(+)  ประโยคบอกเล่า   S + Be1 + V ing

(-)  ประโยคปฏิเสธ    S + Be1 + not + V ing

(?) ประโยคคำถาม  (WH) Be1 + S + V ing ? 

*หมายเหตุ
  • Be1 คือ Verb to be ช่องที่ 1 ประกอบด้วย is, am, are
    • I ใช้กับ am
    • You ใช้กับ are
    • We/They และ นามพหูพจน์ ใช้กับ are
    • He/She/It  และ นามเอกพจน์ ใช้กับ is
  • (หลักการเติม V ing ขอยกไปบทความต่อไป)
การใช้ Present Continuous 
  • Temporary/Unpredictable/Unplanned events เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นชั่วคราว (ไม่ถาวร) เหตุการณ์ที่ไม่ได้คาดคิด หรือ วางแผนไว้ล่วงหน้า
    • I'm working hard these days
      • these days = ช่วงนี้ คือปกติไม่ได้หนักขนาดนี้ ช่วงนี้ที่ทำงานหนัก เหตุการณ์ชั่วคราว
    • Look at the window! The birds are flying
      • คือนกกำลังบินผ่านตอนนี้ แล้วบอกให้ทุกคนหันไปดู ปกติคือนกไม่เคยบินตรงนี้ เป็นเหตุการณ์ที่ไม่ได้คาดคิดว่าจะเกิด
  • Happening around NOW! เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตอนนี้ เดี๋ยวนี้ หรือ เมื่อสักครู่ที่ผ่านมา 
    • Listen! I'm speaking.
      • ครูสั่งให้ฟัง เพราะกำลังจะพูด (สั่งตอนนี้ ให้ทำเดี๋ยวนี้)
    • We are studying English now. 
      • พวกเรากำลังเรียนภาษาอังกฤษกันอยู่
    • Where is Sam? He is walking to 7-11 at the moment. 
      • แซมอยู่ไหน? (ถามตอนนี้) อีกคนก็ตอบว่าเขากำลังเดินไปที่ 7-11 เมื่อกี้นี้ (แซมก็เดินทางอยู่)
  • Changing and developing situations เหตุการณ์ที่กำลังเปลี่ยนแปลงหรือกำลังพัฒนา
    • My son is growing everyday.
      • ลูกผมเติบโตขึ้นทุกวันๆ
    • Are you getting better? 
      • อาการคุณดีขึ้นยัง?
    • The price of gold is going up.
      • ราคาทองคำกำลังสูงขึ้น
  • When = Whenever เมื่อไหร่ก็ตาม + Present Continuous และ ใช้ร่วมกับ Present Simple
    • You look pretty when you're smiling.
      • คุณดูน่ารักเมื่อไหร่ก็ตามที่คุณยิ้ม
  • Complaints/Criticisms การบ่น และ การวิพากษ์วิจารณ์ โดยใช้กับ adverb of frequency ได้ อย่างเช่น always โดยมีความหมายในทางลบ
    • She is always coming to class late.
      • (จะใช้ She always comes to class late ก็ได้ แต่ไม่ได้อรรถรสของการเมาท์คนอื่น) 
  • ในภาษาพูด เราสามารถใช้ Present Continuous เพื่อแสดงความเป็นมิตรมากกว่า ต่อผู้ฟังได้
    • We look forward to your news
      • เรารอฟังข่าวของคุณ
    • We are looking forward to your news 
      • เรารอฟังข่าวเธอนะ (ความรู้สึกจะเป็นมิตรกว่า)
  • *ใช้กับเหตุการณ์ในอนาคตได้ด้วย 
    • ใช้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอนาคตที่แน่นอน (เกิดขึ้นแน่ๆ) โดยมักจะอยู่ในรูปแบบของอนาคตที่วางแผนไว้แล้ว 
      • I'm flying to Japan next Monday morning. 
        • ผมจะบินไปญี่ปุ่นในวันจันทร์หน้าตอนเช้านี้ (เดินทางไปแน่นอน) 
คำบอกเวลา 

ตอนนี้/เดี๋ยวนี้
  • now, right now, just now, at/in the present time
    • แต่ until now, till now และ up to now ไม่ได้อยู่ใน Present Continuous เพราะมีความหมายว่า "จนถึงปัจจุบันนี้" คือตั้งแต่นั้น(อดีต)จนถึงปัจจุบันนี้ ซึ่งมีอดีตมาเกี่ยวข้อง ใช้ใน Present Perfect
  • at the moment = around now เมื่อสักครู่นี้ ก็คือใกล้ๆ กับตอนนี้
  • these + ต่างๆ เช่น these days = ช่วงนี้ (เกิดขึ้นชั่วคราว/ไม่ได้เป็นปกติ)
  • still, constantly, continually =  ยังคง (ทำอยู่)
  • ขึ้นต้นด้วยคำกริยา (V1) นั่นหมายถึงคำสั่ง (command) ซึ่งการสั่งคือมักจะใช้ ณ ตอนนั้นเดี๋ยวนั้น
    • Listen! The teacher is speaking.
    • Watch out! The car is coming.
    • Look! He is texting to someone.
แต่! มี Verb บางตัว ที่ไม่สามารถอยู่ใน Present Continuous ได้
เรียกว่า Non-progressive verbs
  • เพราะเป็นคำกริยาที่เราไม่สามารถมองเห็นได้ว่ากำลังกระทำอยู่หรือไม่ ซึ่งครูโจโจ้แบ่งออกเป็นจำพวกดังต่อไปนี้
    • Sense เซ้นส์สำผัสต่างๆ
      • เช่น see, hear, smell, taste, notice, observe, recognize, think, forget, believe, know, remember, suppose, realize, understand เป็นต้น
    • Mental/Emotional อารมณ์หรือความรู้สึก
      • เช่น like, love, hate, want, need, prefer, desire, respect, care, dislike, refuse, wish, hope เป็นต้น
    • Possessive กริยาที่เกี่ยวกับความเป็นเจ้าของ
      • เช่น belong, have(มี), owe, own, possess
กล่าวคือ ไม่ได้หมายความว่า Verb เหล่านี้เป็น V ing ไม่ได้ 
แต่ Verb เหล่านี้อยู่ใน Continuous ไม่ได้!
  • ให้อยู่ใน Present Simple แทน เช่น ถ้าเรากำลังได้กลิ่นอะไรก็พูดไปเลยว่า I smell something. แทน I am smelling something. ซึ่งไม่ถูกต้อง (ถ้าแบบ UK จะใช้ I can smell something. แบบนี้ก็ได้)
อีกนิดนึง มี Verb เหล่านี้บางคำเป็น V ing ได้ แต่
ความหมายเปลี่ยน!!! เช่น
  • have (มี) I have a new car. ฉันมีรถคันใหม่ (ไม่ใช่ I'm having new car.)
    have (กิน) I'm having dinner. ฉันกำลังทานอาหารเย็น 
  • see (เห็น) I see you. ฉันมองเห็นเธอ (ไม่สามารถเขียนว่า I'm see you.)
    see (นัดพบ) I am seeing a doctor. ฉันกำลังไปพบแพทย์
  • think (คิดว่า - ติดสินใจ) I think you are wrong. ฉันคิดว่าเธอผิด (ไม่ใช่ I'm thinking you are wrong)
    think about/of (ครุ่นคิด/คิดถึง) I'm thinking of you. ฉันกำลังคิดถึงเธออยู่ 
เพิ่มเติมสำหรับเรื่อง Verb เหล่านี้ทำไมถึง -ing ไม่ได้ คลิก (เร็วๆ นี้)

หมายเหตุ

  • อาจจะมีบางคนเคยเห็นสโลแกนของ McDonald ที่เขียนว่า "I'm loving it" คือภาษาในการใช้โฆษณา ซึ่งมองข้ามเรื่องไวยากรณ์ได้ ก็เพื่อให้คำพูดนั้นติดปากลูกค้า อย่างคำว่า I'm loving it เราก็จะไม่ค่อยเห็นใครใช้เลย เพราะที่ถูกต้องมีหนึ่งเดียวคือ I love it แต่มีคนที่ใช้ lovingคนเดียวที่เด่นๆ ก็คือ McDonald's ดังนั้นเมื่อใครพูดว่า I'm loving อะไรก็ตาม ก็จะทำให้คิดถึงร้าน McDonald's ขึ้นมา เป็นกลยุทธ์ทางการตลาด เป็นต้น
ครูโจโจ้

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Sport Day หรือ Sports Day?

เด็กปีหนึ่งใช้ "Freshman" หรือ "Freshmen" ???

Organizing : Topic, Supporting และ Concluding Sentences