อยากเก่งภาษาอังกฤษ .. มาทางนี้

จะปิดเทอมแล้วว !!! ...
หลังจากที่ต้องเผชิญกับสภาวะที่ เครียด ! หนัก ! เหนื่อยล้า ! อ่อนแรง ! จะตายอยู้แร้วว !!
กับแต่ละวิชาที่โรงเรียนที่ผ่านมา แต่หวังว่า 1 ในนั้นคงไม่ใช่วิชาภาษาอังกฤษแน่นอน
(โห่ ... เป็นไปไม่ได้เล๊ยยย ..) .. อิอิ

By the way ... ปีนี้นักเรียนหลายๆ คนก็เตรียมที่จะสอบเข้ามหาวิทยาลัยในฝัน ..
... แต่ ... ยังไม่มั่นใจกับวิชาภาษาอังกฤษเลยง่ะ T_T
ไม่เป็นไรครับนักเรียนที่รักทั้งหลาย ... โอกาสมักจะมีมาเสมอสำหรับคนที่พยายาม ...
ปีที่แล้วพลาดไป .. ปีนี้ตั้งตัวใหม่ได้ .. ยังทัน !!!
วันนี้ครูโจโจ้มีเทคนิคการเรียนภาษาอังกฤษที่ง่ายๆ ..
แต่ต้องตั้งใจนะ ... ประสบความสำเร็จแน่นอน !!

เทคนิคนี้ไม่ได้หวงห้าม .. อยากให้ทำ ..
เชิญลอกเลียนแบบได้ตามสบาย ... ~
โดยเฉพาะนักเรียนที่จะต้องเตรียมสอบเข้ามหาวิทยาลัยในปีนี้ ...
รวมถึงนักเรียนที่อยากเก่งภาษาอังกฤษทุกคน
ยิ่งทำก่อน ... ยิ่งมีสิทธิ TOP คะแนนภาษาอังกฤษมากที่สุด !!! …
เอ้า .. มาดูกันว่าทำยังไงกันบ้าง ....

แบบที่ 1 หาซื้อหนังสือข้อสอบย้อนหลัง 10 ปี มานั่งทำ ...

... จงจำไว้ว่าการศึกษาคือการลงทุน ...
แค่ซื้อหนังสือดีๆ สักเล่ม แต่ทำให้เราเก่งภาษาอังกฤษขึ้น เอามั้ย??
นักเรียนไม่จำเป็นต้องทำข้อสอบ 1 ปีภายใน 1 วันหรอกครับ ..
ยอยๆ ทำไปเรื่อยๆ ให้เข้ากับสำนวนที่ว่า “ช้า ๆ ได้พร้าเล่มงาม” ไง ..
วันละ 5 – 10 หน้าก็ยังดีครับ

... หนังสือที่ดีนั้นก็คือ ..
จะต้องมีเฉลยที่ละเอียด สามารถอธิบายข้อข้องใจให้กับนักเรียนได้ดี
ไม่ใช่แค่เฉลยแต่ไม่มีการอธิบายใดๆ เลย แบบนี้ไม่แนะนำนะ ...
ยิ่งหนังสือที่มีเนื้อหาไวยากรณ์ต่างๆ มาด้วย ก็ยิ่งดีครับ ..
ทีนี้ .. ก็ลองทำข้อสอบ แล้วนับคะแนนข้อสอบแต่ละปีมาเทียบกัน ..
แล้วนักเรียนจะเห็นความแตกต่างจนเหลือเชื่อ!!

แบบที่ 2 จงเสพติดภาษาอังกฤษ !!!

โห .. ใช้คำว่าเสพเลยเหรอ ..
แต่ไม่ใช่เสพยานะครับ ..
เป็นการ เสพสื่อภาษาอังกฤษ ทุกชนิด!! ต่างหากเพียงแค่นักเรียนก็เสพสื่อต่างๆ ที่เป็นภาษาอังกฤษ
ไม่ว่าจะเป็น ดูหนัง ฟังเพลง อ่านข่าวภาษาอังกฤษ
หรือแม้แต่นั่งชมรายการที่สอนภาษาอังกฤษ
ให้เป็นอย่างต่อเนื่อง ... ทุกวัน .. ทุกวัน แบบนี้ให้ชิน ..
จนเป็นนิสัยใหม่ของเราเอง ...
เพราะนักเรียนเสพสื่อเหล่านี้ทุกวัน ..
คราวนี้ก็จะติด ..
ติดภาษาอังกฤษไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วไงหล่ะคร้าบ
(เสพติดภาษาอังกฤษแบบนี้ ... ใครๆ ก็สนับสนุนครับ)

แบบที่ 3 เพื่อย้ำเอาให้จำจนวันตาย .. เสพแล้วต้องเสพให้ เพ้อ!!! ..
นั่น .. ครูโจโจ้นิยังไง ?? ..
พูดเรื่องเสพติด แล้วก็มาเพ้อต่อ ... ฮ่าฮ่าฮ่า
บอกแล้วว่าไม่เกี่ยวกับเพ้อยาคร้าบ
ที่เพ้อนั้นก็หมายถึงให้ ฝึก ..
พยายามออกเสียงภาษาอังกฤษ
ให้เหมือนกับเจ้าของภาษาให้มากที่สุด
เมื่อดูรายการสอนภาษาอังกฤษ .. คำไหนที่โดนใจ ก็พูดตามไปเลย ..
เพลงไหนที่ชื่นชอบ ก็ร้องเพลงนี้ให้ได้ไปเลย ..
เวลาเข้าห้องน้ำก็ร้องเพลง ...
เอาให้เพราะแบบ Justin Bieber ไปเล้ย
เวลาดูหนัง ... ชื่นชอบประโยคไหน ..
ก็พูดทั้งประโยคออกมาไปเลย ..
อยู่คนเดียวก็พูดคนเดียว แล้วก็ชวนเพื่อนมาพูดตอบโต้กับเราก็ได้ ..
พูดคนเดียวแต่เล่นเป็นสองคนตอบโต้กันก็ได้ ...
ใครจะว่าเพ้อ หรือ เพี้ยน .. ก็อย่าไปใส่ใจ ..
เพ้อแล้วได้ดี ... เพ้อไปเถอะ
เวลาที่เราเลียนแบบการพูดตอบโต้แบบฝรั่ง ..
เชื่อหรือไม่ครับ
นักเรียนจะสามารถทำข้อสอบแบบ Conversation
หรือ Situation ได้ง่ายๆ โดยที่ไม่รู้ตัวเลย ..
เพราะการสนทนาของฝรั่งที่เราได้จากนอกตำรา .. มักเป็นข้อสอบ !! 
Confirm!!!

แบบที่ 4 คำศัพท์ .. ตรึงใจ สลักไว้ที่ผนัง !! 
บางครั้งท่องศัพท์แทบตาย ..
แต่ไม่กี่วันก็ลืมซะละ ..
แบบนี้มันต้องแกะสลักติดฝาผนังบ้านกันลืมซะเลยนี่ !!
เอาล่ะ .. นักเรียนต้องไปหาค้อน .. หาสิ่วมาสลักผนังละ ..
หรือไม่ก็สว่านเจาะผนังบ้านไปเล๊ย ...
แหะ ๆ ล้อเล่นหรอกครับ

นักเรียนแค่เอากระดาษ A4 เป็นต้น มาใช้ใหม่ (reuse) ..
เอาหน้าที่ว่างๆ มาเขียนคำศัพท์ตัวโตๆ
สัก 10 คำ ต่อกระดาษหนึ่งแผ่น ..
อาจจะเขียนคำแปลตัวเล็กๆ กำกับไว้ด้วย ..
จากนั้นก็เอาแปะไว้ที่ผนังบ้าน
ตามเส้นทางที่เราผ่านเป็นประจำ
ถ้าใครมีเตียงสองชั้นก็ติดแปะบนเพดานเลย ..
ก่อนนอนจะได้เห็นคำศัพท์ยากๆ จนเก็บไปนอนฝัน ...
แค่วันละ 7 – 10 คำ พอสบายๆ ให้จำได้ง่าย ๆ ..
แล้วจะพัฒนาเป็น 15 - 20 คำต่อวันก็สุดแล้วแต่ครับ ..

วิธีนี้ดีมาก ..
เพราะเราจะเห็นคำศัพท์ที่ว่ายากๆ ทุกวัน .. ทุกวัน 
พอเห็นทุกวันเข้ามันก็ซึมซับ ทั้งคำศัพท์และคำแปล ...
คราวนี้เราก็จะชินกับคำศัพทืนั้น ๆ
แล้วคำศัพท์ยากๆ ก็กลายเป็นคำที่ง่ายยย .. Like a piece of cake เลยทีนี้

แบบที่ 5 สมุดเล็กๆ สักเล่ม .. ใส่ไว้ในกระเป๋าเสื้อ เหมือนเงาตามตัว

กรณีนี้ถ้าหากว่าจำเป็นต้องมีธุระไปต่างจังหวัดหลายวัน ..
ไม่ได้ท่องศัพท์ที่แปะไว้ที่ผนังบ้านนานจนเกินไป
ปัญหาเกิดแน่ ..
พอกลับมาจาก ลัน ล้า ลัน ลา จากต่างจังหวัด ..
มาถึงบ้านปุ๊ป .. เจอศัพท์ที่ฝาบ้านปั๊ป ... ลืม !!

เพื่อกันลืม ..
ก็จดคำศัพท์ลงในสมุดเล็กๆ เอาไว้ใส่กระเป๋าเสื้อ
หรือเอาแบบไฮโซหน่อย ก็บันทึกใน Smartphone หรือ Tablet ให้มันรู้แล้วรู้รอดไปเลย ..
เวลาไปไหน ๆ ยามว่าง ก็หยิบขึ้นมาดู
ลองเล่นปิดคำศัพท์ดูซิ ว่ายังแปลศัพท์นั้ได้ถูกต้องรึปล่าว ..

แน่นอน ไม่มีวันลืมหรอกครับ
อีกทั้งเรายังสามารถจดคำศัพท์ใหม่ๆ
ตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ .. ลงในสมุดของเราได้ด้วย
คราวนี้นอกจากไปเที่ยวเพื่อความผ่อนคลาย สนุกสนานธรรมดา ..
ก็ยังไม่ลืมคำศัพท์ แถมยังได้ศัพท์ใหม่ๆ เพิ่มขึ้นมาอีกด้วย

*เพิ่มเติม นักเรียนสามารถใช้ Google Sheet เป็นคลังคำศัพท์ของเราแบบ online ซึ่งสะดวก และสามารถเรียนตัวอักษร A-Z เพื่อง่ายต่อการท่องจำคำศัพท์เป็นหมวดหมู่ตัวอักษร

ทั้ง 5 แบบ
แนะนำว่าควรทำควบคู่กันไป
คราวนี้นักเรียนก็จะกลายเป็นที่เสพติดภาษาอังกฤษอยู่ตลอดเวลา ..
เก็บความรู้ได้อย่างต่อเนื่องและกว้างมากขึ้น
จนถึงขั้นว่า ถ้าวันใดไม่ได้พบเจอภาษาอังกฤษล่ะก็ ..ะลงแดงตายซะให้ได้เดี๋ยวนี้ไปเลย ..

แล้วทีนี้นักเรียนก็จะหาแบบที่ใช่ .. แบบที่เป็นตัวของตัวเองในการเรียนภาษาอังกฤษที่ตัวนักเรียนค้นพบเองขึ้นมาใหม่ก็ได้


คราวนั้นก็อย่าลืมมา share ประสบการณ์ และเล่าสู่กันฟังให้กับคุณครูโจโจ้ด้วยนะครับ

ความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Sport Day หรือ Sports Day?

เด็กปีหนึ่งใช้ "Freshman" หรือ "Freshmen" ???

Organizing : Topic, Supporting และ Concluding Sentences